SETปรับฐาน100จุด-กูรูแนะลดพอร์ต

หุ้นไทยอาการหนัก ดิ่งวันเดียวกว่า 30 จุด พบ เดือนก.ย.ลงมาแล้วเฉียด 100 จุด โบรกฯ ชี้เป็นแรงขายตัดขาดทุน หลังเส้นเทคนิคหลุดทุกแนวรับ
ประกอบกับตลาดรอผลประชุม ECB ลุ้นยืดระยะเวลา QE ส่วนวันนี้มีลุ้นรีบาวน์แต่เพื่อลงต่อ ชี้หากแนวรับแรก 1,450-1,440
จุดเอาไม่อยู่ มีแนวรับถัดไป 1,430-1,420 จุด ด้าน ตลท. ชี้ตลาดหุ้นช่วงนี้เปราะบาง แนะติดตามข่าวสารใกล้ชิด ยันพื้นฐานตลาดยังไม่เปลี่ยน

        ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (8 ก.ย.59) ยังปรับตัวลดลงอย่างหนักต่อเนื่องมาจากต้นสัปดาห์ โดยปิดการซื้อขายที่ระดับ 1455.38 จุด ลดลง 31.82 จุด หรือ -2.14% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 81,642.89
ล้านบาท โดยลงไปทำจุดต่ำสุดที่ จุด หรือลดลง จุด ซึ่งหากนับจุดต่ำสุดของ SET วานนี้ ตลอดเดือนกันยายนนี้ SET ปรับตัวลดลงมาแล้วถึงจุดต่ำสุด 99 จุด หรือ
6.3% ส่งผลให้นักวิเคราะห์ต่างออกมาปรับประมาณการแนวรับของ SET ใหม่         ขณะที่การซื้อขายรายกลุ่มวานนี้ นักลงทุนสถาบัน ขายสุทธิ 3,239.10
ล้านบาท ส่วนบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ นักลงทุนต่างประเทศ นักลงทุนภายในประเทศ ซื้อสุทธิ 148.45 – 626.15 – 2,464.50 ตามลำดับ
*** โบรกฯ ชี้ลงหนักตามเส้นเทคนิค ทำนลท.แห่ขายตัดขาดทุน
        นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยวานนี้ (8 ก.ย.59)ปรับตัวลงแรงกว่า 30 จุด
มองว่าเป็นการขายตัดขาดทุนเพื่อลดความเสี่ยง หลังดัชนีฯ ร่วงแรง จนเกิดสัญญาณลบทางเทคนิค อินเดอร์เคเตอร์ต่าง ๆ เริ่มเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาลง
โดยดัชนีฯ มีโอกาสลงไปทดสอบแนวรับ 1,450 จุด หากหลุดมีแนวรับถัดไปที่ 1,430-1,420 จุด ตลอดจนปัจจัยกดดันเฉพาะตัวในประเทศ
ขณะที่ดอยช์แบงก์ ซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์กับทิสโก้ เปลี่ยนมุมมองต่อผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในคืนนี้ จากเดิมที่คาดว่า
ECB จะขยายเวลามาตรการ QE ออกไป 9-12 เดือน ซึ่งคาดว่าน่าตัดสินใจในการประชุมเป็นเดือน ธ.ค.
*** ชี้วันนี้รีบาวน์เพื่อลงต่อ ให้แนวรับแรก 1,450-1,440 จุด ถัดไป 1,430-1,420 จุด
        สำหรับพรุ่งนี้ นายอภิชาติ ประเมินว่า หุ้นไทยมีโอกาสรีบาวน์ทางเทคนิค แต่เป็นภาพของการรีบาวน์เพื่อลงต่อ เพราะตลาดฯ
ยังถูกกดกันจากปัจจัยลบเฉพาะตัวในประเทศ และแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ที่แม้มั่นใจว่าเฟดจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ แต่เชื่อว่าเฟดจะส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวมากขึ้น
ซึ่งจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อกระแสเงินทุน        อย่างไรก็ตาม จนถึงกลางเดือนนี้ มองว่าดัชนีฯ จะยังไม่หลุด 1,400 จุด
เพราะนักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิหุ้นไทย และการปรับหุ้นใน FSTE เพิ่มเข้า 3 ตัว และเพิ่มน้ำหนักการลงทุนอีก 11 ตัว แต่แรงซื้อน้อยกว่าคาดพอสมควร
จากที่คาดว่าจะมีแรงซื้อจากประเด็น FSTE ประมาณ 956 ล้านดอลลาร์ฯ จึงต้องระวังกระแสเงินทุนต่างชาติที่เริ่มแผ่วให้เห็นแล้ว
        ด้านกลยุทธ์ แนะชะลอการลงทุน แต่หากจะเก็งกำไรต้องยอมรับความเสี่ยงได้สูงมาก ส่วนการซื้อลงทุน มองว่ายังไม่ใช่จังหวะ เพราะราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมา
ยังไม่ถูกพอเมื่อเทียบกับความไม่แน่นอนของปัจจัยลบ พร้อมกับประเมินแนวรับแรก 1450-1440 จุด แนวรับถัดไป 1430-1420 จุด แนวต้าน 1470-1475 จุด
*** ลุ้นรีบาวน์หากยืน 1,465 จุดได้
        นายเอกภาวิน สุนทราภิชาติ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้เจอแรงขายทำกำไรหลังจากที่ได้ปรับตัวขึ้นไปมากแล้วในช่วงก่อนหน้านี้
ส่งผลให้เช้านี้ตลาดบ้านเราดูอ่อนกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่แกว่งแคบ ประกอบกับที่ผ่านมาดัชนีฯได้หลุดแนวสำคัญๆ มาตั้งแต่ 1,530 จุด, 1,500 จุด
และเช้านี้ก็หลุดแนว 1,480 จุด
        ทั้งนี้ตลาดฯ กำลังรอดูการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในช่วงค่ำวันนี้ แม้ว่าจะไม่ได้คาดหวังมาตรการใหม่
แต่เชื่อว่าจะมีการขยายระยะเวลาทำ QE ออกไปจากที่จะสิ้นสุดในเดือน มี.ค.60 หากเป็นไปตามนั้นก็ไม่ได้เป็นปัจจัยลบกับตลาดฯ
แต่หากมีมาตรการเพิ่มเติมก็อาจทำให้ตลาดฯดีดตัวขึ้นได้         ดังนั้นหากดัชนีฯยังไม่หลุดแนวรับ 1,465 จุด ยังมีโอกาสรีบาวด์
แต่ถ้าหลุดก็จะมีแนวรับถัดไปที่ 1,456 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,490-1,500 จุด