AI ของ facebook ถูกปิดหลังจากมันพยายามสร้างภาษาใหม่ในการติดต่อกันเอง

“you i i i everything else” เรื่องฮือฮาสัปดาห์นี้เกี่ยวกับ AI หรือ artificial Intelligence สร้างภาษาในการแชทขึ้นมาเองโดยมนุษย์ส่วนใหญ่ไม่เข้าใจ เรามาดูกันไหมว่ามันแชตว่าไงมั่ง

จริงๆแล้ว การสร้างภาษาเอง เพื่อประสิทธิภาพในการสื่อสารของAI chatbot ไม่ใช่เรื่องใหม่ Google เคยมีรายงานมาแล้วใน AI ที่ช่วยในการแปลภาษาของGoogleเอง แต่ทางฝั่งนั้นแฮปปี้ และให้มันพัฒนาต่อเนื่องจากช่วยในการแปลภาษา
มาถึงเรื่องของFB บ้าง ทาง Facebook พัฒนาหน่วย AI ที่เรียกว่า FAIR ซึ่งมีการลองพัฒนาแชตบอท ให้มีการต่อรองแลกของกัน (การต่อรอง เป็นการสมมติฐานจากการเป็นมนุษย์) เพราะแต่ก่อน เครื่องจักรทำงานโดยการป้อนคำสั่งจากคน แต่ด้วยการพัฒนา AI หนึ่งในความฝันคือทำให้มันคิดเป็น หนึ่งในนั้นคือการต่อรองแลกของกัน ซึ่งมีกระบวนการคิดที่ซับซ้อนขึ้นมาอีก และจะมีประโยชน์ในการช่วยมนุษย์ ต่อรองเช่น จองตั๋วเครื่องบิน หรือแลกสิ่งของ จองภัตตาคาร
FAIR สร้างแชตบอทสองตัวคือ Bob และ Alice ให้มันต่อรองกัน โดยทั้งสองตัวได้รับสิ่งของเท่ากันคือ 2 books , 1 hat , 3 balls หน้าที่คือต้องแบ่งสิ่งของหรือแลกกัน โดยมันได้รับโปรแกรมให้ต้องการสิ่งต่างๆ จำนวนต่างๆกัน เป้าหมายคือให้บรรลุข้อตกลงของทั้งสองบอท และจะได้รับคะแนนเป็นรางวัล
บอทได้รับการโปรแกรมเพื่อให้สามารถคาดเดา การตอบในอนาคต การคาดหมายถึงเหตุผลในการตอบของบอทอีกตัว ฯลฯ คล้ายกับการเล่นหมากรุก หรือ โก การคาดเดาการเดินของหมากต่อไป เป็นต้น โดยการสอนคำพูดจากการพูดปกติ ประมาณ 5808 ประโยค มีคำใช้งานประมาณ 1000 คำ โดยคำและประโยคเหล่านั้น เป็นคำที่ใช้งานจริง จาก Amazon Mechanical Turk service บอทจะเลียนแบบมนุษย์ โดยการคาดเดาว่า มนุษย์จะมีการตอบสนองอย่างไรในประโยคนั้น
ระบบคะแนนจะให้คะแนนบวก ถ้ามีการตกลงกันได้ผ่านการแชท น้อยกว่า 10 ประโยค และจะเป็น0 ถ้าตกลงกันไม่ได้ สิ่งหนึ่งที่พบก่อนหน้านั้น เมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมาคือ ความสามารถในการ “โกหก” โดยบางครั้งบอท แสร้งแสดงความสนใจในสิ่งที่ตนเองไม่ต้องการ เพื่อให้การต่อรองได้ประโยชน์ เป็นต้น
เรื่องที่ฮือฮากัน เกิดขึ้นเมื่อคนคุม มาพบว่า มันมีการสร้างภาษาแปลกๆในการสนทนา ซึ่งดูเหมือนไม่มีอะไร แต่มันเป็นการสร้างการสื่อความหมายที่เข้าใจในระหว่างบอทกันเอง เพื่อประสิทธิภาพในการสื่อสารมากขึ้น เราลองมาดูตัวอย่างกัน
Bob: i can i i everything else . . . . . . . . . . . . . .

Alice: balls have zero to me to me to me to me to me to me to me to me to

Bob: you i everything else . . . . . . . . . . . . . .

Alice: balls have a ball to me to me to me to me to me to me to me

Bob: i i can i i i everything else . . . . . . . . . . . . . .

Alice: balls have a ball to me to me to me to me to me to me to me

Bob: i . . . . . . . . . . . . . . . . . . .

Alice: balls have zero to me to me to me to me to me to me to me to me to

Bob: you i i i i i everything else . . . . . . . . . . . . . .

Alice: balls have 0 to me to me to me to me to me to me to me to me to

Bob: you i i i everything else . . . . . . . . . . . . . .

Alice: balls have zero to me to me to me to me to me to me to me to me to

จากไดอะล็อกคำดังกล่าว เราพบว่าแม้จะดูเหมือนว่าไร้สาระ แต่พบว่า มันมีแพทเทอร์นที่น่าสนใจและเฉพาะเจาะจงอยู่ และประโยคแปลกๆเหล่านั้นจบลงด้วยการตกลงดีลด้วยซ้ำไป !
Dhruv Batra แห่ง FAIR (Facebook Artificial Intelligence Research) กล่าวว่า บอท พัฒนาภาษาสื่อสารกันเอง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อ เช่น ถ้าพูดคำซ้ำกัน 5 ครั้งหมายถึงต้องการ 5 อัน การพูดชื่อตัวเองซ้ำๆกันก็มีแพทเทอร์นอยู่
บริษัทเลยปิดระบบแชท (ย้ำว่าปิดแชตเท่านั้น) เพราะการแชทที่มนุษย์ไม่รู้เรื่อง ไม่ใช่เป้าหมายของการวิจัยครั้งนี้ แต่หนังสือพิมพ์แทบลอยต์ ต่างๆต่างพากันออกข่าวครึกโครมในการขายข่าวครับ ว่าต้องถอดปลั๊กบ้าง ว่าเกิดการสื่อสารในหมู่ AI บ้าง ให้ฮือฮากันไป
จริงๆต้องบอกว่า บอทยังด้อยกว่าอยู่มากในการ “อยู่ให้เป็น” เพราะการเลียนแบบการ”เสแสร้งมารยา”และยิ่งการเสแสร้งเพิ่มเป็นสองชั้น สามชั้น สี่ชั้น แบบมนุษย์ยังอ่อนด้อยมาก ถ้าบอทอยู่เป็น จะไม่พยายามกระโตกกระตากอะไรออกมาแบบนี้ ในสถานการณ์ที่มีการจับตาแบบนี้ จะอยู่เงียบๆ จริงไหม? ต้องลองถามคนไทยตอนนี้ดู